เมื่ออายุมากขึ้น มักจะมีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยตามมาอย่างเห็นได้ชัด
ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญและสร้างความกังวลใจไม่น้อย
“การศัลยกรรมดึงหน้า”
จึงเป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับการแก้ไขปัญหาผิวที่หย่อนคล้อย
และริ้วรอยบริเวณบนใบหน้ารวมถึงส่วนของลำคอ
ให้มีความกระชับ เต่งตึง และดูอ่อนกว่าวัย
ซึ่งการดึงหน้าจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน กว่าการแก้ไขด้วยวิธีอื่นๆในปัจจุบัน
อีกทั้งยังสามารถสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้เข้ารับบริการรวมถึงสร้างความมั่นใจให้มากยิ่งขึ้น
คือการผ่าตัดแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวหนังและเนื้อเยื่อต่างๆใต้ผิวหนังบริเวณใบหน้า เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวหน้าใหม่ให้มีความเต่งตึง ไร้ริ้วรอยและให้กลับมาสดใสอีกครั้ง ด้วยการตัดผิวหนังส่วนเกินที่หย่อนคล้อยออก แล้วทำการดึงให้กระชับทั้งบริเวณผิวหน้าด้านนอกและเนื้อเยื่อด้านในรวมไปถึงชั้นกล้ามเนื้อ
โดยโรงพยาบาลเลอลักษณ์มีศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางสำหรับการดึงหน้า และเครื่องมือที่ครบครัน ที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ด้วยประสบการณ์ความงามยาวนานถึง 24 ปี ทั้งนี้ทีมแพทย์ได้มีการคิดค้นเทคนิคพิเศษเฉพาะเพื่อให้ได้ผลลัพธ์อย่างดีที่สุด
โรงพยาบาลเลอลักษณ์ มีเทคนิคพิเศษในการตกแต่งศัลยกรรมดึงหน้าด้วย 2 เทคนิค คือ
1. เทคนิค Deep locking™️
เป็นเทคนิคพิเศษดึงหน้าในระดับผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังชั้นชั้นลึก Deep skin เพื่อแก้ไขปัญหา ความหย่อนคล้อย ผิวใบหน้าห้อยย้อย โดยโรงพยาบาลเลอลักษณ์จะทำ การซ่อนแผล โดยใช้เวลาในการผ่าตัดไม่นาน พักฟื้นเร็ว แผลหายไว เนียนไปกับผิวดึงหน้า Face Lift หน้าตึงย้อนวัย
ดึงหน้าที่เลอลักษณ์ โดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง ไม่ต้องดมยา ฟื้นตัวไวบวมช้ำน้อย
2. เทคนิค Deep plane locking™️
เป็นการผ่าตัดยกตัดผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึง ทั้งนี้ผ่าตัดดึงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อชั้นSMAS ด้วยเทคนิคแบบ High-SMAS และ ชั้นลึกลงไปมากกว่าชั้น smas ด้วยเทคนิค Deep Plane
เทคนิค High-SMAS Facelift ดึงหน้านั้นAdvance ความหย่อนคล้อยไม่ได้มาจากผิวหนังเพียงอย่างเดียว แต่ยังมาจากชั้นไขมันใต้ผิวหนังและชั้นพิเศษที่เรียกว่าสแมซ (SMAS หรือ Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งสอดแทรกอยู่บริเวณชั้นผิวหนังกับกล้ามเนื้อใบหน้า
Facelift Surgery/Rhytidectomy ดึงหน้าแบบ High-SMAS ดึงชั้นสแมชและ deep plane ผลลัพธ์จะเปลี่ยนแปลงเยอะที่สุด อยู่ได้ยาวนาน 10ปี ++ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล ที่เลอลักษณ์ผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง มาตรฐานระดับโรงพยาบาล 24 ปี
ผิวชั้น SMAS คืออะไร? สำคัญอย่างไร ?
SMAS ย่อมาจาก Superficial Musculo Aponeurotic System เป็นชั้นเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อใบหน้า มีเส้นใยคอลลาเจนอยู่รวมกันเป็นพังผืด
อยู่ระหว่างชั้นไขมันและชั้นกล้ามเนื้อ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อการดึงหน้าให้ยกกระชับ เนื่องมาจากชั้น SMAS เชื่อม
ตั้งแต่กล้ามเนื้อไปถึงชั้นผิวหนังด้านบนทำให้การยกชั้น SMAS จะยกผิวได้ทุกชั้น หากผิวชั้นบนมีการดึงขึ้น ก็จะทำให้ใบหน้าที่หย่อนคล้อย
มีความยกกระชับมากยิ่งขึ้น
โครงสร้างใบหน้า ผิวหนังมีกี่ชั้น?
1. ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) : ชั้นผิวบนสุดของระดับชั้นผิว ทำหน้าที่ช่วยปกป้องผิวจากสารพิษ , แบคทีเรีย และการสูญเสียน้ำ
มีทั้งหมด 5 ชั้นย่อย ในกระบวนการผลัดเซลล์ผิว (Keratinization) ประกอบด้วย
1.1 Stratum corneum
1.2 Stratum lucidum
1.3 Stratum granulosum
1.4 Stratum spinosum
1.5 Stratum basale
2. ชั้นหนังแท้ (Dermis) : ชั้นผิวหนังที่อยู่ใต้ชั้นหนังกำพร้า ที่มีความหนาที่สุดของระดับชั้นผิว โดยจะประกอบด้วย คอลลาเจน อีลาสติน ไขมัน เส้นเลือด และ ออกซิเจนที่จะคอยหล่อเลี้ยงเซลล์ผิว
3. ชั้นไขมัน (Hypodermis) : ชั้นผิวที่มีเซลล์ไขมันสะสม รวมทั้งโปรตีนคอลลาเจน เป็นตัวกำหนดรูปลักษณ์ของความอ้วนและความผอมซึ่งจะมีหน้าที่ช่วยรักษาอุณหภูมิของร่างกาย
4. ชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน (SMAS) : ชั้นผิวที่ประกอบด้วยแนวเส้นใยคอลลาเจนซึ่งมีผลต่อคุณภาพผิวที่ดี ทั้งผิวที่กระชับ มีความยืดหยุ่นผิว มีโครงสร้างเป็นเนื้อเยื่อพังผืดห่อหุ้มกล้ามเนื้อ ซึ่งระดับผิวชั้นนี้จะมีความสำคัญต่อการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้าให้ยกกระชับขึ้นได้
5. ชั้นกล้ามเนื้อใบหน้า ( subcutaneous ) : กล้ามเนื้อที่ควบคุมการแสดงสีหน้า โดยทั่วไปกล้ามเนื้อจะมาจากพื้นผิวของกระดูกกะโหลกศีรษะ เมื่อกล้ามเนื้อหดตัว ผิวหนังจะเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อเหล่านี้ยังทำให้เกิดริ้วรอยตามแนวการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ
ดึงหน้าตำแหน่งไหนบ้าง?
- ใบหน้าส่วนบน : การผ่าตัดดึงดึงขมับ หางคิ้ว หางตา
- หน้าผาก : การผ่าตัดยกคิ้ว รอยย่นที่หน้าผาก
- การผ่าตัดดึงใบหน้าส่วนกลาง : การผ่าตัดดึงช่วงแก้มด้านบน ช่วงแก้มด้านล่าง ร่องน้ำหมาก
- ใบหน้าส่วนล่าง : แก้คางย้อย ร่องน้ำหมากชัด
- ยกกระชับผิวส่วนคอ
ศัลยกรรมดึงหน้า เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่ต้องการปรับแก้ปัญหาผิวหน้าให้กระชับ
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ตีกา คิ้วตก หางตาตก
- ผู้ที่มีปัญหาร่องน้ำหมากลึก
- ผู้ที่มีปัญหาหน้าเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าดูแก่กว่าวัยอันควร
- 1. การดึงหน้าช่วยลดริ้วรอยและฟื้นฟูความกระชับของผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสมากขึ้น
- 2. ผิวหน้าตึง อ่อนกว่าวัย อยู่ได้นานถึง 5-10 ปี (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลของแต่ละบุคคล)
- 3. แผลผ่าตัดเล็ก บวมช้ำน้อยกว่าการผ่าตัดแบบอื่นๆ
- 4. สามารถแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้หลายจุดพร้อมกัน เช่น แก้ม คาง และลำคอ ทำให้ใบหน้ามีความสมดุลและดูสมมาตรมากขึ้น
- 1. การศัลยกรรมดึงหน้าเป็นการผ่าตัดใหญ่ ซึ่งอาจมีความเสี่ยง เช่น อาการบวม ฟกช้ำ การเสียเลือด หรือการติดเชื้อ
- 2. ควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานและมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในการศัลยกรรมใบหน้า เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด โดยโรงพยาบาลเลอลักษณ์ เรามีเครื่องมือที่ทันสมัยพร้อมห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ ระบบ HEPA Filter และมีทีมศัลยแพทย์เฉพาะทางที่มากประสบการณ์อีกด้วย
- 3. การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการดูแลแผลหลังผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนและช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสมบูรณ์ที่สุด
- 1. ปรึกษาแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญก่อนผ่าตัด
- 2. ตรวจสุขภาพก่อนรับการผ่าตัด
- 3. ปรับเปลี่ยน / หยุดยา และรวมถึงอาหารเสริมที่ทานเป็นประจำ เช่น วิตามิน ทุกชนิด
- 4. เตรียมความพร้อมทางจิตใจ
- 5. วางแผนการฟื้นตัวหลังรับการผ่าตัด
การศัลยกรรมดึงหน้าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ของใบหน้า ช่วยลดริ้วรอยและยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยได้อย่างชัดเจน การเลือกเทคนิคที่เหมาะสมและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การศัลยกรรมดึงหน้าปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี
- ผู้ที่ต้องการปรับแก้ปัญหาผิวหน้าให้กระชับ
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ตีกา คิ้วตก หางตาตก
- ผู้ที่มีปัญหาร่องน้ำหมากลึก
- ผู้ที่มีปัญหาหน้าเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าดูแก่กว่าวัยอันควร
หน้าผาก ดึงหน้าส่วนกลาง ดึงหน้าส่วนล่าง แก้เหนียงใต้คาง ยกคิ้ว ดึงคอบน ดึงคอล่าง
ผิวหน้าตึง อ่อนกว่าวัย อยู่ได้นานถึง 5-10 ปี (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลของแต่ละบุคคล)