BLOG

หากคุณกำลังรู้สึกไม่มั่นใจกับรูปทรงของหน้าอก ไม่ว่าจะเป็นขนาดที่เล็ก หน้าอกหย่อนคล้อยจากวัยหรือการให้นมบุตร หรือแม้กระทั่งเคยเสริมหน้าอกมาแล้วแต่ยังไม่พึงพอใจ การศัลยกรรมหน้าอกอาจเป็นทางออกที่ช่วยคืนความมั่นใจให้กับคุณได้อย่างแท้จริง

ศัลยกรรมหน้าอกในปัจจุบันมีเทคนิคที่หลากหลายและปลอดภัยมากขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังช่วยปรับสมดุลของรูปร่างให้ดูสวยกลมกลืน ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับประเภทของการศัลยกรรมหน้าอก เทคนิคที่ได้รับความนิยม ราคาที่ควรรู้ และวิธีเลือกโรงพยาบาลอย่างปลอดภัย พร้อมคำแนะนำจากทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลเลอลักษณ์ ที่พร้อมดูแลคุณทุกขั้นตอนอย่างใส่ใจ

ศัลยกรรมหน้าอก คืออะไร? เหมาะกับใครบ้าง

ศัลยกรรมหน้าอก (Breast Surgery) คือหัตถการทางการแพทย์ที่ช่วยปรับรูปทรง ขนาด หรือความกระชับของหน้าอก เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและปรับสัดส่วนของร่างกายให้ดูสมดุลมากขึ้น ซึ่งศัลยกรรมประเภทนี้สามารถทำได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย โดยแบ่งออกเป็นหลายเทคนิค เช่น การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน การยกกระชับหน้าอก การลดขนาดหน้าอก หรือแม้แต่การแก้ไขหน้าอกจากปัญหาหย่อนคล้อย หรือเสริมหน้าอกที่เคยทำมาแล้วเกิดภาวะแทรกซ้อน

การศัลยกรรมหน้าอกถือเป็นหนึ่งในศัลยกรรมยอดนิยมที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจ โดยเฉพาะในผู้หญิงที่ต้องการปรับรูปร่างให้มีส่วนเว้าส่วนโค้ง หรือผู้ที่สูญเสียรูปทรงหน้าอกจากการให้นมบุตรหรืออายุที่มากขึ้น

ศัลยกรรมหน้าอก เหมาะกับใครบ้าง?

          • ผู้ที่มีหน้าอกเล็กแบน หรือไม่สมส่วนกับรูปร่าง
          • ผู้ที่มีหน้าอกหย่อนคล้อยจากอายุหรือหลังคลอดบุตร
          • ผู้ที่เคยเสริมหน้าอกแล้วไม่พอใจในผลลัพธ์ หรือมีปัญหาซิลิโคนผิดตำแหน่ง
          • ผู้ที่สูญเสียหน้าอกจากโรคหรืออุบัติเหตุ และต้องการฟื้นฟู
          • ผู้ชายที่ต้องการลดขนาดหน้าอกจากภาวะเต้านมโตผิดปกติ (Gynecomastia)

ศัลยกรรมหน้าอก ทางออกของคนอกหย่อน

หนึ่งในปัญหาที่ผู้หญิงหลายคนต้องเผชิญเมื่ออายุมากขึ้น หรือหลังจากการคลอดบุตรและให้นม คือ หน้าอกหย่อนคล้อย หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า หน้าอกยาน ซึ่งเป็นผลมาจากการสูญเสียความยืดหยุ่นของผิวหนัง กล้ามเนื้อ และไขมันใต้ผิว หากปล่อยไว้นานอาจส่งผลต่อความมั่นใจในรูปร่างและบุคลิกภาพได้อย่างมาก

ศัลยกรรมหน้าอกยาน จึงเป็นวิธีทางการแพทย์ที่ช่วยยกกระชับหน้าอกให้กลับมาตั้งตรง ได้รูป ดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง โดยไม่จำเป็นต้องเสริมซิลิโคนหากไม่ได้ต้องการเพิ่มขนาด

หน้าอกหย่อนยานเกิดจากอะไร?
          • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น วัยทองหรือหลังให้นมบุตร
          • น้ำหนักที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น การลดน้ำหนักอย่างฉับพลัน
          • แรงโน้มถ่วง เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังและกล้ามเนื้อจะสูญเสียความกระชับ
          • การตั้งครรภ์และให้นมบุตร ทำให้หน้าอกขยายและยุบตัวบ่อยครั้ง
ข้อดีของการแก้ไขหน้าอกยาน
          • หน้าอกกระชับและได้รูป ดูอ่อนวัยขึ้น
          • เพิ่มความมั่นใจในการแต่งกายและใช้ชีวิต
          • ลดปัญหาการระคายเคืองหรือเชื้อราที่อาจเกิดใต้รอยพับหน้าอก
          • สามารถปรับรูปร่างร่วมกับการเปลี่ยนขนาดซิลิโคนได้

ศัลยกรรมหน้าอก มีกี่ประเภท? เทคนิคแบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ

การทำ ศัลยกรรมหน้าอก ไม่ได้มีเพียงแค่การเสริมขนาดด้วยซิลิโคนเท่านั้น แต่ยังมีเทคนิคอื่น ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะจุดของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปร่าง ความหย่อนคล้อย หรือการแก้ไขหน้าอกที่ผิดรูป ซึ่งเทคนิคแต่ละแบบมีข้อดีแตกต่างกันไป

การเลือกประเภทของการทำศัลยกรรมหน้าอก ควรพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น โครงสร้างร่างกาย ความต้องการด้านความสวยงาม ไลฟ์สไตล์ และงบประมาณที่มี รวมถึงคำแนะนำจากศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วย

ประเภทการทำศัลยกรรมจุดประสงค์หลักเหมาะกับใครจุดเด่น
เสริมซิลิโคนเพิ่มขนาด / ปรับรูปทรง ผู้ที่หน้าอกเล็กหรือไม่สมดุลขนาดชัดเจน มีตัวเลือกหลากหลาย
เติมไขมันตัวเองเสริมเล็กน้อย / ธรรมชาติผู้ที่มีไขมันส่วนเกินไม่ใส่สิ่งแปลกปลอม หน้าอกนุ่มมาก
ยกกระชับหน้าอกแก้หย่อนคล้อย ผู้ที่หน้าอกยานจากอายุ / น้ำหนักหน้าอกกระชับ ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาด
ศัลยกรรมแก้หน้าอกแก้ปัญหาหน้าอกเก่าผู้ที่เคยเสริมมาก่อนปรับแก้ได้ตรงจุด เสริมความมั่นใจใหม่

ซิลิโคนสำหรับ ศัลยกรรมหน้าอก มีกี่ประเภท?

ซิลิโคนเสริมหน้าอกสามารถแบ่งออกได้ตาม 3 เกณฑ์หลัก ดังนี้

  1. แบ่งตามพื้นผิวของซิลิโคน

▪️ ผิวเรียบ (Smooth Surface)

              • ผิวสัมผัสลื่น เนียน
              • ลดความเสี่ยงของแผลเป็นรอบซิลิโคน (Capsular contracture)
              • เคลื่อนไหวในเต้านมได้ดี จึงให้สัมผัสเป็นธรรมชาติ
              • เหมาะกับผู้ที่ต้องการหน้าอกนุ่มและกลมสวย

▪️ ผิวทราย (Textured Surface)

              • ผิวสัมผัสสากเล็กน้อย มีลักษณะเป็นรูพรุน
              • ยึดเกาะกับเนื้อเยื่อได้ดี จึงลดการเคลื่อนตัวของซิลิโคน
              • ลดความเสี่ยงการเกิดพังผืดแข็งรัดรอบซิลิโคน
              • นิยมใช้กับทรงหยดน้ำ หรือผู้ที่ต้องการผลลัพธ์คงรูป
  1. แบ่งตามรูปทรงของซิลิโคน

▪️ ทรงกลม (Round Shape)

              • เหมาะกับผู้ที่ต้องการ หน้าอกดูอวบอิ่ม อกชิด สวยเซ็กซี่
              • เพิ่มเนินอกและความชิดได้ดี
              • เหมาะกับคนที่หน้าอกเล็กหรือผิวหนังไม่หย่อน

▪️ ทรงหยดน้ำ (Teardrop / Anatomical Shape)

              • รูปร่างเหมือนหยดน้ำ ฐานกว้างและเรียวลงด้านบน
              • ให้ลุค ธรรมชาติ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหน้าอกที่ “ดูไม่ศัลยกรรม”
              • นิยมมากในเกาหลีและยุโรป
              • เหมาะกับคนที่มีหน้าอกหย่อนเล็กน้อย หรือฐานหน้าอกแคบ
  1. แบ่งตามเจลภายในซิลิโคน

▪️ ซิลิโคนเจลธรรมดา

            • เจลมีความนิ่มปานกลาง
            • คงรูปพอประมาณ และราคาไม่สูงมาก
            • เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นเสริมหน้าอกครั้งแรก

▪️ ซิลิโคนเจลชนิดพิเศษ (เช่น Motiva Ergonomix, Mentor Xtra Gel)

            • ให้ความนุ่มและการเคลื่อนไหวใกล้เคียงหน้าอกธรรมชาติมากที่สุด
            • ยืดหยุ่นตามแรงโน้มถ่วงและท่าทางของร่างกาย
            • บางรุ่นมีชิปฝังในเพื่อการตรวจสอบในอนาคต
            • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความพรีเมียม ความเป็นธรรมชาติ และความปลอดภัย
ตารางเปรียบเทียบประเภทซิลิโคนเสริมหน้าอก
ประเภทซิลิโคนลักษณะจุดเด่นเหมาะกับใคร
ผิวเรียบลื่น เนียน นิ่มเป็นธรรมชาติ เคลื่อนตัวได้ดีผู้ต้องการผลลัพธ์ดูไม่แข็ง
ผิวทราย สาก ยึดเกาะได้ดีลดโอกาสซิลิโคนเคลื่อน หน้าอกหย่อน / ต้องการความคงรูป
ทรงกลมกลมเท่ากันทุกด้าน อกชิด อวบอิ่ม ชัดเจนผู้ชอบลุคเซ็กซี่ ใส่ชุดเปิดอก
ทรงหยดน้ำเหมือนหยดน้ำดูเป็นธรรมชาติ เหมือนเต้านมจริงผู้ต้องการลุคธรรมชาติ
เจลธรรมดา นิ่มปานกลาง ราคาเข้าถึงได้ง่ายมือใหม่ที่เพิ่งเสริมหน้าอก
เจลพิเศษยืดหยุ่นสูง / มีชิปความนุ่มสูง ปลอดภัยผู้ต้องการงานละเอียดและพรีเมียม

การเลือกประเภทของ ซิลิโคนศัลยกรรมหน้าอก ไม่ได้มีคำตอบเดียวที่ดีที่สุด แต่ขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะตัวของคุณ เช่น ความนิ่ม ความคงรูป ความปลอดภัย และความเป็นธรรมชาติ แนะนำให้ ปรึกษาศัลยแพทย์เฉพาะทาง ที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์ เพื่อเลือกซิลิโคนที่เหมาะกับโครงสร้างหน้าอกของคุณมากที่สุด

ศัลยกรรมหน้าอก ที่ไหนดี? เคล็ดลับเลือกสถานพยาบาลที่เชื่อถือได้

เมื่อคุณตัดสินใจได้แล้วว่าอยากศัลยกรรมหน้าอก การเลือกสถานพยาบาลคืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวย ปลอดภัย และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะยาว

ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนเลือกทำศัลยกรรมหน้าอก
          1. ศัลยแพทย์เฉพาะทางมีใบประกอบวิชาชีพ
            ควรตรวจสอบว่าแพทย์ที่ทำการผ่าตัดเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยตรง และมีประสบการณ์ในเคสเสริมหน้าอกโดยเฉพาะ
          2. สถานพยาบาลได้รับใบอนุญาตและมีมาตรฐาน
            เลือกสถานที่ที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข และมีห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐาน พร้อมทีมวิสัญญีแพทย์
          3. มีรีวิวและภาพผลงานก่อน-หลังให้ชม
            ศึกษาผลงานจริงจากผู้ใช้บริการ ทั้งในเว็บไซต์ของโรงพยาบาลหรือรีวิวตามแหล่งต่าง ๆ เช่น pantip, facebook หรือ google map
          4. ระบบติดตามผลและดูแลหลังผ่าตัด
            ควรมีทีมพยาบาลหรือแพทย์ติดตามอาการหลังผ่าตัดอย่างใกล้ชิด และมีบริการให้คำปรึกษาเมื่อมีข้อสงสัย
ทำไมโรงพยาบาลเลอลักษณ์ถึงเป็นตัวเลือกที่มั่นใจได้
          • ที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์มีศัลยแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์สูง
          • ใช้ซิลิโคนเกรดพรีเมียมผ่านการรับรองจาก FDA
          • ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อและระบบติดตามผลที่ได้มาตรฐาน
          • รีวิวจากลูกค้าจริงนับพันเคส พร้อมภาพ Before & After
          • มีโปรแกรมศัลยกรรมเฉพาะบุคคล วิเคราะห์รูปร่างและออกแบบหน้าอกให้เหมาะกับแต่ละคน

ขั้นตอนการ ศัลยกรรมหน้าอก ทำอย่างไรบ้าง? รู้ครบก่อนตัดสินใจ

การศัลยกรรมหน้าอกเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความละเอียดรอบคอบและวางแผนอย่างมีระบบ ตั้งแต่การปรึกษาแพทย์ การเลือกขนาดซิลิโคน ไปจนถึงการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยปลอดภัยและตรงใจที่สุด มาดูขั้นตอนแบบละเอียดที่ควรรู้ก่อนเข้ารับการทำศัลยกรรมหน้าอกกันค่ะ

  1. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
    ขั้นตอนแรกของการศัลยกรรมหน้าอกคือการ เข้ารับคำปรึกษากับศัลยแพทย์เฉพาะทาง เพื่อวิเคราะห์รูปทรงหน้าอกเดิม ประเมินสภาพร่างกาย และสอบถามความต้องการของคนไข้ เช่น ขนาด ความสูงของขอบหน้าอก และความชอบส่วนตัว

ในขั้นตอนนี้แพทย์จะช่วยแนะนำว่า ควรเลือกศัลยกรรมหน้าอกแบบใด เช่น เสริมซิลิโคน ยกกระชับ หรือเติมไขมัน เพื่อให้เหมาะกับรูปร่าง ไลฟ์สไตล์ และผลลัพธ์ที่คาดหวัง

  1. ตรวจร่างกายและเตรียมความพร้อมก่อนผ่าตัด
    ก่อนทำศัลยกรรมหน้าอก คนไข้ต้องตรวจสุขภาพทั่วไป เช่น ตรวจเลือด เช็กประวัติโรคประจำตัว หรืออาการแพ้ยา พร้อมทั้งงดอาหารและน้ำก่อนผ่าตัดประมาณ 6–8 ชั่วโมง (หากใช้ยาสลบ)

หากมีการใช้ซิลิโคนเสริมหน้าอก แพทย์จะช่วยเลือกชนิด ขนาด ซีซี (CC) และโปรไฟล์ที่เหมาะสม เช่น ซิลิโคน Mentor, Motiva หรือแบบอื่น ๆ

  1. ขั้นตอนการผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอก

เมื่อถึงวันผ่าตัด ศัลยแพทย์จะเริ่มจากการให้ยาชาเฉพาะจุดหรือวางยาสลบ แล้วดำเนินการผ่าตัดโดย

          • เปิดแผลบริเวณรักแร้, ใต้ราวนม หรือปานนม ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่เลือก
          • ใส่ซิลิโคนเข้าไปในชั้นใต้กล้ามเนื้อ หรือเหนือกล้ามเนื้อ
          • ปรับตำแหน่งซิลิโคนให้เหมาะสมกับฐานหน้าอก
          • เย็บปิดแผลและพันผ้ายืดเพื่อพยุงทรงหน้าอก

ใช้เวลาผ่าตัดโดยเฉลี่ยประมาณ 1–2 ชั่วโมง

  1. พักฟื้นหลังผ่าตัด

หลังศัลยกรรมหน้าอก คนไข้จะได้รับการดูแลจากพยาบาลและศัลยแพทย์อย่างใกล้ชิด ในช่วง 1–3 วันแรก ควรพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการยกของหนัก และสวม ซัพพอร์ตบราสำหรับศัลยกรรมหน้าอก ตลอดเวลาอย่างน้อย 1 เดือน

แพทย์จะนัดตรวจซ้ำเพื่อติดตามผล และประเมินการฟื้นตัวของแผลผ่าตัด รวมถึงแนะนำวิธีนวดหน้าอก (หากจำเป็น)

คำแนะนำเพิ่มเติม

          • ไม่ควรทำศัลยกรรมหน้าอกในช่วงมีประจำเดือนหรือร่างกายอ่อนแอ
          • ควรงดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ก่อนและหลังผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
          • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักและกิจกรรมที่ต้องใช้กล้ามเนื้อช่วงบนใน 1 เดือนแรก

การทำศัลยกรรมหน้าอกไม่เพียงแค่เปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอก แต่ยังเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวคุณเองอีกด้วย ดังนั้น การศึกษาขั้นตอนและเลือกทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

หากคุณสนใจอยากปรึกษาเรื่องการเสริมหน้าอกแบบปลอดภัย ทีมแพทย์ที่ โรงพยาบาลเลอลักษณ์ พร้อมดูแลคุณอย่างมืออาชีพค่ะ

5.การสวมซัพพอร์ตบราหลังศัลยกรรมหน้าอก
หลังการผ่าตัด ควรสวมซัพพอร์ตบราอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงในช่วง 1 เดือนแรก เพื่อช่วยให้ซิลิโคนเข้าที่ ลดอาการบวม และช่วยพยุงทรงหน้าอกให้สวยเข้ารูปเร็วขึ้น

การเลือกซัพพอร์ตบราที่พอดีกับขนาดหน้าอกหลังเสริม จะช่วยให้การฟื้นตัวดีขึ้นและรู้สึกสบายตัวมากกว่าการใส่บราแบบทั่วไป

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ศัลยกรรมหน้าอก (FAQ)

Q:ศัลยกรรมหน้าอกเจ็บไหม?
A:ความเจ็บหลังผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้และสภาพร่างกายของแต่ละคน โดยทั่วไปอาจรู้สึกตึงหรือปวดกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกในช่วง 3-7 วันแรก ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดและการพักผ่อนอย่างเพียงพอ สำหรับผู้ที่ใช้เทคนิค Dual Plane หรือใต้กล้ามเนื้อ อาการตึงจะเด่นชัดกว่าการวางซิลิโคนเหนือกล้ามเนื้อ แต่จะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า

 

Q:ใช้เวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
A:โดยทั่วไปสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันเบา ๆ ได้ภายใน 3-5 วัน และกลับไปทำงานทั่วไปได้ภายใน 7-10 วัน อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ยกของหนัก หรือยกแขนสูงในช่วง 4-6 สัปดาห์แรกเพื่อให้ซิลิโคนเข้าที่ได้ดีที่สุด

 

Q:หลังทำสามารถให้นมบุตรได้ไหม?
A:ในกรณีที่แพทย์วางซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อหรือไม่กระทบต่อท่อน้ำนม โอกาสที่คุณแม่จะสามารถให้นมบุตรได้ยังคงมีอยู่ แต่ควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด หากมีแผนจะตั้งครรภ์ในอนาคต เพื่อให้แพทย์วางแผนการผ่าตัดให้เหมาะสม

 

Q:อายุการใช้งานของซิลิโคนอยู่ได้นานแค่ไหน?
A:ซิลิโคนหน้าอกรุ่นใหม่ในปัจจุบัน เช่น Motiva หรือ Mentor มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 10-15 ปี และหลายแบรนด์มีการรับประกันตลอดอายุการใช้งาน อย่างไรก็ตาม ควรเข้ารับการตรวจติดตามกับแพทย์เป็นประจำทุก 1-2 ปี เพื่อดูความสมบูรณ์ของซิลิโคน

 

Q:เสริมหน้าอกแล้วต้องเปลี่ยนทุกกี่ปี?
A:ไม่มีข้อกำหนดว่าต้องเปลี่ยนซิลิโคนทุกกี่ปี หากไม่มีอาการผิดปกติ เช่น เจ็บตึง รู้สึกแข็ง หรือซิลิโคนเสียรูป คุณสามารถใช้ได้ยาวนานหลายปีโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน แต่หากมีความกังวล ควรเข้ารับการตรวจเช็กกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

Q:ศัลยกรรมหน้าอก เกาหลี ต่างจากที่ไทยไหม
A:เกาหลีถือเป็นประเทศต้นแบบของการศัลยกรรม แต่ในปัจจุบันประเทศไทย โดยเฉพาะโรงพยาบาลศัลยกรรมระดับพรีเมียมอย่าง เลอลักษณ์ ก็มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับนานาชาติ ทั้งในด้านฝีมือแพทย์และวัสดุที่ใช้ สิ่งที่ไทยได้เปรียบคือเรื่องของการสื่อสาร การดูแลหลังผ่าตัดอย่างใกล้ชิด และค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่ากว่า โดยไม่ต้องเดินทางไปต่างประเทศให้ยุ่งยาก