ปัญหาตาชั้นเดียว ชั้นตาหลบใน ชั้นตาไม่เท่ากัน มักเป็นปัญหากวนใจอยู่เสมอ การติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นก็ไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร ดังนั้นการศัลยกรรมตกแต่งตาสองชั้นจึงเป็นทางเลือกลำดับต้นๆ ที่จะช่วยให้ดวงตาดูสวยขึ้นนั่นเอง
วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีปัญหา หนังตาตก เปลือกตาหนา ไขมันที่เปลือกตามาก และมีความหย่อนของผิวหนัง โดยจะใช้มีดผ่าตัดหรือเลเซอร์กรีดเปิดแผล สามารถทำได้ทั้งกรีดสั้นและกรีดยาว ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์
ตาสองชั้นวิธีนี้เป็นเทคนิคจากประเทศญี่ปุ่น โดยมีชื่อว่า เทคนิค Princess Eyes เหมาะสำหรับที่มีอายุไม่เกิน 35 ปีหรือผู้ที่มีเปลือกตาบาง มีไขมันบริเวณเปลือกตาน้อย และหนังตาไม่ตก แพทย์จะเจาะเปลือกตาให้เป็นรูเล็กๆ ด้วยเครื่องเลเซอร์ แล้วเย็บด้วยการล็อคชั้นตาจากด้านในด้วยไหมชนิดพิเศษ เทคนิคนี้จะเสียเลือดน้อย แผลหายเร็ว บวมช้ำน้อย เทคนิคนี้มีเฉพาะที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์เท่านั้น
แพทย์ทุกท่านของโรงพยาบาลเป็นศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง
และเป็นสมาชิกสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยแห่งประเทศไทย (ThSAPS) และยังมีประสบการณ์การผ่าตัดศัลยกรรม 10 ปีขึ้นไปทุกท่าน ดังนั้นจึงสามารถมั่นใจได้ว่า แพทย์ของเรามีความเชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมเป็นอย่างมาก
แพทย์ของโรงพยาบาลเลอลักษณ์ได้บินไปศึกษาวิธีการทำตาสองชั้นจากประเทศญี่ปุ่น
และใช้เทคนิคนี้ในการผ่าตัดทำตา สองชั้นจุดเด่น คือช่วยให้ได้รอยพับชั้นตาที่ลึก คม สวยหวาน และไม่มีปัญหาเรื่องรอยแผลเป็นบริเวณเปลือกตา
โรงพยาบาลได้มาตรฐาน เครื่องมือแพทย์ครบครัน
ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อด้วยระบบกรองอากาศ HEPA Filter (High Efficiency Particulate Air Filter) เพื่อควบคุมปริมาณฝุ่นละอองที่มีอนุภาคขนาดเล็กและเชื้อโรคต่างๆ และระบบ Oxygen Pipeline หรือออกซิเจนช่วยชีวิตสำหรับผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉิน รวมถึงมีทีมแพทย์และพยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
รับประกันการงานศัลยกรรม
ภายใน 6 เดือนหลังจากทำ มั่นใจว่าคุ้มค่าคุ้มราคาในการทําตาสองชั้นแน่นอน
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2 สัปดาห์ ทั้งก่อนและหลังผ่าตัด เนื่องจากจะทำให้แผลหายช้า
- งดยาแอสไพริน (Aspirin), ไอบิวโพรเฟน (Ibuprofen) วิตามินอีและอาหารเสริมที่มีผลทำให้เลือดออกมากก่อนเข้ารับการผ่าตัด 2 สัปดาห์
- แจ้งโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ฯลฯ และแจ้งประวัติการแพ้ยาหรืออาหารเสริมที่ใช้ในปัจจุบันให้แพทย์ทราบก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- 1. ในวันผ่าตัดไม่ควรขับรถมาเอง เพราะเมื่อผ่าตัดเสร็จสายตายังไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ
- 2. พกแว่นกันแดดติดตัวไปด้วยในวันผ่าตัด เพื่อใช้อำพรางดวงตาและป้องกันแสงแดดและฝุ่นละอองที่อาจทำให้ระคายเคืองตา
- 3. นอนหนุนหมอนสูง 2-3 ใบ ในช่วงวันแรกหลังผ่าตัด
- 4. ในช่วง 3 วันแรกหลังผ่าตัด ให้ประคบเย็นที่บริเวณหน้าผากและรอบดวงตา โดยประคบ 15 นาที เว้น 15 นาที เพื่อช่วยห้าม การไหลซึมของเลือด
- 5. ทานยาแก้อักเสบและลดบวม หากเกิดอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ หลีกเลี่ยงการดื่มของมึนเมา เนื่องจากจะมีผลทำให้แผลหายช้าและนอนพักผ่อนให้เพียงพอ
- 6. หลังการผ่าตัด 24 ชั่วโมง สามารถทำความสะอาดแผลได้ โดยใช้สำลีก้อนชุบน้ำอุ่นเช็ดเบา ๆ บริเวณแผลที่เปลือกตาและซับให้แห้ง แล้วทายาเคลือบแผลตามแพทย์สั่ง
- 7. ไม่ควรล้างหน้าในช่วง 3 วันแรกหลังทำ เพื่อให้แผลแห้งและหายเร็ว
- 8. พยายามอย่ากะพริบตาถี่เพื่อหลีกเลี่ยงอาการบวม
- 9. ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่จะมีผลต่อการเพิ่มความดันในดวงตา เช่น การเล่นกีฬาทุกประเภท การก้ม การยกของหนักหรือ แม้แต่การร้องไห้ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการออกแดด และสวมแว่นกันแดดเสมอจนกว่าแผลจะหายเป็นปกติ
- 10. ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทุกอย่างที่ต้องใช้สายตา เช่น อ่านหนังสือนานๆ การใช้คอมพิวเตอร์ และการใส่คอนแทคเลนส์ เนื่องจากทำให้ตาแห้งได้
- 11. ไม่ควรขยี้ตาแรงในช่วง 3 สัปดาห์แรกหลังจากทำ บางคนอาจจะมีขี้ตามากกว่าปกติ และรู้สึกตึงหนังตาบนบ้าง ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายเป็นปกติภายใน 1 สัปดาห์
- 12. ในช่วงแรก ชั้นตาจะยังดูบวม หนา ไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งจะค่อยๆ ยุบลงไปเรื่อยๆ แล้วจะสามารถเห็นชั้นตาที่สวยงาม ในสัปดาห์ที่ 4 และจะหายสนิทในระยะเวลา 1 – 3 เดือนหลังผ่าตัด
ถุงใต้ตา (Eyes bag) เกิดจากเนื้อเยื่อรอบตาหย่อนลงร่วมกับถุงไขมันที่มีอยู่ใต้ดวงตานูนออกมามาก โดยปกติถุงใต้ตานั้น จะถูกกั้นไว้ด้วยเนื้อเยื่อพังผืดบางๆ แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น หรือไม่ดูแลสุขภาพดวงตาอย่างเหมาะสม เนื้อเยื่อพังผืดส่วนนั้นก็จะเริ่มอ่อนแอลง และไม่สามารถกั้นให้ถุงไขมันจมอยู่ใต้เนื้อผิวใต้ตาได้ จนทำให้ไขมันออกมาเป็นก้อนถุงใต้ตาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งการมีถุงใต้ตาจะทำให้ตาดูอ่อนเพลีย ไม่สดใสและทำให้ดูแก่กว่าวัย ซึ่งการเกิดถุงใต้ตาไม่ได้พบเพียงคนที่มีอายุที่มากขึ้นอย่างเดียว แต่สามารถพบได้ตั้งแต่วัยรุ่น หรือคนที่ได้รับจากกรรมพันธุ์รุ่นสู่รุ่น เนื่องจากการเกิดถุงใต้ตามักมีหลายปัจจัยที่สามารถเกิดขึ้นได้
ความผิดปกติของระบบการไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลือง
ทำให้เกิดการสะสมของไขมันและของเหลวบริเวณผิวหนังใต้ตาจนบวม หรือนูนออกมา
โครงกรามส่วนที่เหลืออยู่มีความเรียบเนียน
ไม่ขรุขระ มีความกลมกลืน คลำกระดูกไม่เจอ สามารถเช็คได้จากการคลำหรือสัมผัสด้วยตนเอง และพิสูจน์ได้จากผล CT-Scan
อายุที่มากขึ้น
พักผ่อนไม่เพียงพอ
ใช้สายตาหนัก ยาวนานและต่อเนื่อง
มีภาวะความเครียด
พฤติกรรมการใช้ชีวิตและการรับประทานอาหาร เช่น การสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่อง การชอบขยี้ตา , ร้องไห้บ่อยๆ หรือการกินอาหารรสจัดประสบการณ์ขั้นสุด เนื่องจากต้องปรับแก้ไขรูปกระดูกที่เสียหายให้กลับมาปกติ แล้วค่อยปรับสู่ความสวยงาม
ไม่ได้บำรุงรอบดวงตาให้แข็งแรงและสุขภาพดี
ถุงใต้ตา
เกิดจากไขมันที่อยู่บริเวณเนื้อเยื่อใต้ดวงตา จนทำให้มีผิวหนังถุงใต้ตานูนออกมาหย่อนคล้อย และค้างอยู่ที่บริเวณใต้ตา โดยปกติแล้วทุกคนจะเข้าใจว่าถุงใต้ตามักจะเกิดขึ้นเมื่อถึงวัยที่อายุมากขึ้น แต่จริงๆแล้ว สามารถเกิดได้ทั้งวัยรุ่น และยังเกิดได้จากกรรมพันธุ์ ผลเสียของการมีถุงใต้ตา คือจะทำให้ตาดูอ่อนเพลีย โทรม ไม่สดใส และทำให้ดูแก่กว่าวัย
ดอลลี่อาย
เกิดจากกล้ามเนื้อในส่วน Orbicularis Oculi ที่เป็นกล้ามเนื้อที่อยู่รอบดวงตา มีผิวหนังนูนขึ้นที่บริเวณตาล่าง ซึ่งจะเกิดได้ตามธรรมชาติ อีกทั้งดอลลี่อายยังจะทำให้หน้าดูเด็ก และจะเห็นชัดก็ต่อเมื่อมีการยิ้มหรือหัวเราะ
ถุงใต้ตาเทียม : จะเกิดขึ้นบริเวณใต้ตาล่าง ซึ่งเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น ระบบการไหลเวียนในร่างกายไม่ดี หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การใช้สายตาหนักอย่างยาวนานและต่อเนื่อง พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือการร้องไห้ ชอบขยี้ตา และชอบดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ จึงทำให้มีของเหลวไปคั่งอยู่บริเวณใต้ตา
วิธีแก้ไขถุงใต้ตาเทียมลดน้อยลงพักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลตัวเอง และหมั่นประคบเย็นที่ผิวใต้ตาหลังจากปฏิบัติตัวสม่ำเสมอ ใต้ตาก็จะกลับมาปกติ
ถุงใต้ตาแท้ : เกิดขึ้นได้จาก “กรรมพันธุ์” เมื่อเกิดการทำงานที่ผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อภายในร่างกาย ทำให้ของเหลวไหลมารวมตัวกันบริเวณใต้ตามากเกินไป จนทำให้ผิวหนังถุงใต้ตาดูนูนออกมา เนื้อเยื่อพังผืดในส่วนนั้นอ่อนแอลง ไม่สามารถกั้นให้ถุงไขมันจมอยู่ใต้เนื้อผิวใต้ตาได้ จนทำให้ไขมันออกมา
เป็นก้อนถุงใต้ตา
วิธีนี้แก้ไขถุงใต้ตาแท้ จะสามารถแก้ไขได้ด้วย “การผ่าตัดศัลยกรรมถุงไขมันใต้ตา”
การผ่าตัดถุงไขมันใต้ตา เป็นการแก้ไขปัญหาบริเวณเนื้อถุงไขมันใต้ตาที่มีผิวหนังหย่อนคล้อยและมีไขมันสะสมที่ตาล่างเป็นจำนวนมาก ทำให้ดวงตาดูอ่อนเพลีย ใบหน้าดูโทรมและดูมีอายุ ให้กลับดูเด็ก ใบหน้าไบร์ท และสดใสขึ้น
โดยวิธีแก้ไขจากทีมแพทย์ของโรงพยาบาลเลอลักษณ์ จะผ่าตัดถุงใต้ตาด้วยเทคนิคพิเศษ เพื่อนำชิ้นไขมันที่อยู่บริเวณใต้ตาออก ทำให้ใต้ตาดูเรียบเนียน สวยงาม และดูเป็นธรรมชาติขึ้น จากนั้นจะเย็บด้วยเทคนิคพิเศษ บริเวณแนวขนตา ซึ่งมีความยาวเพียง 0.5 – 1 ซม. ซึ่งทำให้แผลเล็ก แทบมองไม่เห็นรอยแผลเป็น และใช้เวลาพักฟื้นน้อยที่สุด
การผ่าตัดถุงใต้ตาจะช่วยปรับให้ผิวรอบบริเวณดวงตาให้มีมิติ และดูอ่อนวัย สดใสขึ้น
ไม่ทำให้โครงหน้าดูโทรม สูงวัย และมีรอยเหี่ยวย่น ผิวหย่อนยานบริเวณรอบดวงตา
โดยพื้นที่บริเวณเปลือกตาล่างของท่านจะดูเสมอกับผิวหน้ามากขึ้น ไม่เป็นก้อนครึ่งวงกลมจนเห็นเป็นร่องหรือมิติที่เกิดเงาใต้ตาอย่างชัดเจน
1. ผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อย
2. มีหนังตาส่วนเกิน
3. ผู้ที่มีปัญหาบริเวณใต้ตาลึก
4. ผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาบวมกรรมพันธุ์
การผ่าตัดถุงใต้ตาสามารถทำได้กับคนทุกเพศทุกวัยอย่างไม่จำกัด
แต่หากมีโรคประจำตัวควรหลีกเลี่ยงการศัลยกรรมผ่าตัดถุงใต้ตาที่อาจส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียงเป็นเหตุเกิดความเสี่ยงได้ เช่น
1. โรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและระบบประสาทที่ไม่สามารถผ่าตัดถุงใต้ตาได้
2. โรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือดหรือการแข็งตัวของเลือด
- 1. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- 2. แจ้งโรคประจำตัว ประวัติแพ้ยา รวมถึงยาที่ทานเป็นประจำ เช่น วิตามิน ทุกชนิด
- 3. แจ้งประวัติการผ่าตัดหรือการทำศัลยกรรมที่เคยทำ
- 4. งดยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด ล่วงหน้า 2-4 สัปดาห์ เช่น ยาละลายลิ่มเลือด
- 5. งดการสูบบุหรี่และบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- 6. เตรียมแว่นตามาด้วยในวันผ่าตัด เพราะจะต้องใส่เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกในอากาศมาสัมผัสแผล
- 1. แพทย์จะใช้ดินสอหรืออุปกรณ์เฉพาะวาด เพื่อทำสัญลักษณ์ที่ถุงใต้ตาส่วนที่จะผ่าตัดนำไขมันใต้ผิวออก
- 2. วิสัญญีแพทย์จะให้ยาชาร่วมกับยานอนหลับ เพื่อลดความรู้สึกตื่นกลัวระหว่างผ่าตัดบริเวณดวงตา
- 3. แพทย์จะกรีดเปิดผิวหนังใต้ตาเพื่อตัดถุงไขมันส่วนเกินใต้ผิวออก
- 4. เย็บปิดแผลด้วยเทคนิคพิเศษ “แผลเล็ก แผลบาง แทบไม่เห็นรอยแผล”
- 1. นอนศีรษะสูงในช่วงแรก เพื่อลดอาการบวม และทำให้แผลยุบตัวเร็ว
- 2. ประคบเย็นบริเวณหน้าผากและผิวรอบดวงตาในช่วง 2-3 วันแรก
- 3. อย่าให้แผลโดนน้ำ 3 วันแรก หลังจากนั้นสามารถทำความสะอาดใบหน้าได้ตามปกติ
- 4. คอยทำความสะอาด สะเก็ดของคราบเลือด
- 5. กินยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- 6. งดอาหารรสจัด อาหารหมักดอง อาหารทะเลประมาณ 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- 7. ใส่แว่นกันแดดเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกในอากาศและฝุ่นละออง
- 8. งดใส่คอนแทคเลนส์ 1 สัปดาห์หลังผ่าตัดไปก่อน เพราะการดึงเปลือกตาเพื่อใส่คอนแทคเลนส์อาจจะทำให้แผลฉีกขาดได้
- 9. งดทำกิจกรรมที่ใช้สายตาหนักและต่อเนื่อง ชั่วคราว เช่น เล่นมือถือ , ดูทีวี เป็นต้น
- 10. ห้ามขยี้ตาหรือใช้มือสัมผัสแผลอย่างเด็ดขาด
- 11. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณผิวรอบดวงตา
- 12. มาแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
ในเทคนิคของโรงพยาบาลเลอลักษณ์เป็นเทคนิคซ่อนรอยแผลเป็น ไม่เป็นหอยแครงหลังจากทำทันที ลดเป็นแผลเป็น เลือดออกน้อย ไม่บวมช้ำ
หลังจากทำ ดำเนินการตามปกติดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์การทายาการประคบเย็น-ประคบร้อนเพื่อรักษาการเพื่อให้แผลหายเร็วชั้นตาเข้าที่ไวขึ้น
สามารถแนะนำการใช้พื้นที่กับการออกเเบบของอาจารย์แพทย์ ดีไซน์เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
ช่วยปรับให้ผิวรอบบริเวณดวงตาให้มีมิติ และดูอ่อนวัย สดใส ไบร์ทมากขึ้น
สามารถตรวจได้ที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์เปิดให้บริการมากกว่า 24 ปี
leluxsurgeryofficial